5 เหตุผลที่ไม่ควรใช้ Facebook แทน Website
5 เหตุผลที่ไม่ควรใช้ Facebook แทน Website
ปัจจุบันคงไม่มีใครไม่รู้จัก Facebook และคงปฏิเสธไม่ได้เลยว่า Facebook เป็น Social Network ที่มีกลุ่มคนใช้สูงมาก ขนาด Google Plus เองก็ยังสู้ไม่ไหว หลาย ๆ ท่าน ก็คงหมดเวลาส่วนหนึ่งในแต่ละวันไปกับ Facebook ไปไม่น้อย และสิ่งหนึ่งที่เรามักจะเห็นผู้ใช้บริการ Facebook ก็ขยับช่องทางการขายสินค้า มาทาง Facebook ในระยะหนึ่งแล้ว
จนหลาย ๆ ท่าน ก็ใช้ Facebook แทนหน้าเว็บไซต์ ของตัวเองเลย แต่ลองมาดูเหตุผลที่เราไม่ควรใช้ Facebook แทน Website ของเรากันครับ
-
Facebook นั้นหาความแน่นอนไม่ได้
-
การแสดงผลบน Facebook
-
การจัดการสิ่งต่าง ๆ บน Facebook
-
ความน่าเชื่อถือ
-
ข้อมูล
หลายครั้งที่ Facebook มีการเปลี่ยนรูปแบบหน้าตาไป หรือมีการเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบ ซึ่งอาจจะกระทบต่อหน้าเพจของท่าน ซึ่งวันนึง Facebook มีการเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบ ซึ่งท่านอาจจะโดน Facebook แบน Fan Page ของท่านไป นั่นหมายความว่า หน้า Fan Page ของท่านจะหายไปทันที ธุรกิจของท่านจะหยุดชะงัก เปรียบเสมือนร้านท่านถูกปิดลงไป เหมือนท่านโดนไล่ที่ ต้องไปหาที่ค้าขายใหม่ ต้องไปบอกลูกค้าใหม่ ว่า ท่านย้ายที่ขายของมาที่นี่แล้ว แน่นอนครับ ลูกค้า อาจจะ ไม่ได้รับทราบทั่วถึงกัน และในช่วงแรกก็เหมือนต้องเริ่มต้นใหม่
การแสดงผลบน Facebook ก็ยังมีข้อจำกัด เช่น ต้อง Login ก่อน ต้องกด Like ก่อนจึงจะแสดงผล ซึ่งอาจจะไม่สะดวกสำหรับนักท่องเว็บ หรือคนไม่ชำนาญมากนัก
เมื่อท่านต้องการจัดการหน้าเพจของท่านให้เป็นไปตามความต้องการนั้นอาจไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เช่นการแยกหมวดหมู่สินค้า การจัดการโปรโมชั่น การค้นหาข้อมูล ทำได้ยาก หรืออาจจะเป็นไปไม่ได้เลย เมื่อลูกค้าหาสิ่งที่ต้องการไม่พบ ลูกค้าเองก็พร้อมจะไปค้นหาที่ ๆ หาได้ง่ายกว่า หากเปรียบเทียบกับการจัดทำเว็บไซต์ ขึ้นมาเอง เราเพียงเสียค่าบริการ จดโดเมนเนม และค่าเช่าโฮสติ้ง แล้วติดตั้ง CMS ที่เราต้องการ
ความน่าเชื่อถือ แทบจะไม่มีเลย เมื่อเทียบกับการจัดทำเว็บไซต์ และด้วยโลกปัจจุบันนี้ การหลอกลวงมีมาทุกรูปแบบ มีข่าวให้เราได้เห็นกันอยู่เรื่อย ๆ ดังนั้นหากเราจะดำเนินธุรกิจแล้ว ลงทุนเพิ่มอีกนิดเสียค่าบริการ จดโดเมนเนม และค่าเช่าโฮสติ้ง เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้แก่ลูกค้า พร้อมกันนี้ หากธุรกิจของท่านสามารถจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ได้ ก็ควรจดเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือขึ้นมาอีกระดับ
หากวันหนึ่งที่ท่านต้องการส่งอีเมลล์หาลูกค้า แน่นอนว่า Facebook ทำได้เพียงการส่ง ข้อความ หรือ Personal Message และ Facebook ไม่ยินดี และไม่ยินยอมให้ข้อมูลลูกค้า ที่มากด Like Fan Page ท่านแน่ ว่าใช้อีเมลล์อะไร แต่หากท่านใช้ CMS เช่น OpenCart จะมีระบบจัดการหลังบ้าน ให้ท่านดำเนินการได้ง่ายดาย และสามารถส่งข่าวสารแจ้งลูกค้าได้ง่ายขึ้น รวมถึงการติดตามสถานการณ์อัพเดทสินค้าที่ลูกค้าได้สั่งซื้อไป ลูกค้าเองก็เพียงเข้ามาในระบบ แล้วติดตามสถานะสินค้า
ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ ไม่ใช่ Facebook ไม่ดี เพียงแต่เราต้องเลือกส่วนที่ดีมาใช้ อย่านำธุรกิจของท่านไปฝากไว้กับ Facebook เพียงอย่างเดียว ให้มองว่า Facebook เป็นเพียงช่องทางหนึ่ง และมีเว็บไซต์ควบคู่กันไป ผมรับรองว่า จะส่งผลดีมากกว่าแน่นอนครับ